Subscribe:

DekvanzClub

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตะลุยแดนโสมกับฮุนได(2)

วันที่ 4 เช้า 28 ก.ค. คณะสื่อมวลชนไทยทั้ง 40 ชีวิตที่ไปร่วมงาน "Journey to the World of Hyundai : Thai Journalists in Namyang, Korea 2011" ได้ปรับเปลี่ยนแผนโปรแกรมกันใหม่หลังจากที่พายุฝนตกกระหน่ำมาทั้งคืน และตอนเช้าก็ยังไม่หยุด โดยมุ่งหน้าไปโซลทาวเวอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยู่นอกตัวเมือง และน้ำไม่ท่วม คณะสื่อมวลชนของไทยเป็นคณะแรกๆ ที่เดินทางถึงโซลทาวเวอร์ เข้าชม พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์ ซึ่งอยู่ข้างล่าง จัดทำเป็นการก่อกำเนิดและชนชาติ และบรรพบุรุษของคนเกาหลีว่ามีความเป็นมาอย่างไร ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะขึ้นไปบนหอคอยเอ็นโซล หรือหอคอยกรุงโซล ดูบรรยากาศตัวเมืองกรุงโซลมุมสูงที่วันนี้มีแต่เมฆฝนอยู่เต็มท้องฟ้า (ถ้าเป็นช่วงอื่นที่พายุไม่เข้าน่าจะสวยกว่านี้แน่) ก่อนกลับก็แวะมาสำรวจดูกุญแจที่หนุ่มสาวและคู่รักมาคล้องคู่แสดงความรักว่า จะอยู่คู่กันตลอดไปแบบไม่ปล่อยไปให้คนอื่นอีก

ออกจากโซลทาวเวอร์ มุ่งสู่ศูนย์โสมรัฐบาล ดูวงจรชีวิตของโสม และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากโสมและมีส่วนผสมของโสม ก่อนจะแวะทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมืองคาลบี้ หมูย่างเกาหลี ซึ่งการทานคล้ายกับเมี่ยงคำของคนไทยเรานี่เอง อิ่มหน่ำสำราญเสร็จก็ออกเดินทางไป ศึกษาดูงานกันที่สำนักงานใหญ่ของฮุนได อยู่ชานกรุงโซล มี Mr.Frank Ahrens Director/Global PR Team ของฮุนได มาคอยต้อนรับ ซึ่งสำนักงานใหญ่ของฮุนไดเป็นศูนย์รวมทุกบริษัทในเครือ รวมถึงบริษัทรถยนต์อย่างเกีย มอเตอร์ ด้วย โดยภายในห้องโถงชั้นล่างมีการนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ของฮุนได และเกีย มาจัดแสดงร่วมกัน โดยในตอนนี้รุ่นเด่นคือ โซนาตา ไฮบริด รายรอบพื้นที่มีการจัดแสดงเทคโนโลยีต่างๆ ของฮุนไดทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น เครื่องยนต์ เกียร์รถถัง รถยนต์ต้นแบบที่ใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell ซึ่งทางฮุนไดวางแผนในการผลิตออกสู่ตลาดต่างๆ ทั่วโลกในอนาคต รวมถึงความสำเร็จในโลกมอเตอร์สปอร์ต ออกจากสำนักงานใหญ่ของฮุนไดก็มาแวะร้านดิวตี้ฟรี ดงฮวา ขณะที่บางคนก็ไม่ได้เข้าไป เดินเล่นอยู่แถวนั้นหาร้านกาแฟดื่ม ซึ่งมีอยู่มากมายในกรุงโซล และชาวเกาหลีก็มาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง ทั้งนัดเจอกัน มานั่งเล่นคอมพ์ ออกจากดง ฮวาดิวตี้ฟรีก็กลับมาแวะตลาดเมียนดง ตามความเรียกร้องของสาวๆ ที่ยังได้ของฝากไม่ครบ ซึ่งวันนี้ดีกว่าวันแรกที่แวะเพราะฝนไม่ตก เลยเดินช็อปปิ้งกันอย่างสนุกๆ มื้อค่ำของวันนี้เป็นไก่ตุ๋นโสม อาหารตำรับชาววัง บำรุงสุขภาพ อิ่มหนำกันเสร็จก็มาชมการแสดง HI JUMP SHOW ศิลปะการต่อสู้แบบโบราณของเกาหลี ของครอบครัวจอมเพี้ยน ก่อนจะเข้าโรงแรมที่พัก

วันที่ 5 วันสุดท้ายของการเดินทาง 29 ก.ค. ทั้งคณะได้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักมุ่งหน้าสู่บลูเฮาส์ หรือทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อมองไปจะเห็นอาคารเป็นสีฟ้าอ่อน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเกาหลีผสมสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ด้านหลังเป็นภูเขา และด้านหน้าเป็นลานกว้าง มีอนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ ที่หมายถึงความเป็นอมตะ แล้วเดินทางต่อไปยังพระราชวังเคียงบ็อค เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คติชนพื้นเมือง และพระราชวังเคียงบ็อคกุง พระราชวังใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยราชวงศ์โชซอน กับจุดเด่นที่น่าสนใจมังกร 7 เล็บ บนเพดานท้องพระโรง ที่มองจากประตูด้านหน้าจะไม่เห็นต้องมองจากประตูด้านข้างเท่านั้น ออกจากพระราชวังเคียงบ็อค ทั้งคณะก็มาสนุกสนานกันต่อกับชาบูชาบู สุกี้สไตล์เกาหลี เป็นมื้อกลางวัน และทาง บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็ได้เซอร์ไพรส์จัดเค้กวันเกิดให้สื่อมวลชนทั้ง 4 คนที่เกิดในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย จนอิ่มแปล้ไปตามๆ กัน ก่อนจะกลับมาที่สนามบินอินชอนเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ก็แวะ ซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่นเพื่อละลายเงินวอนให้หมด เอากลับมาแลกเป็นเงินบาทที่เมืองไทยก็ไม่คุ้มขาดทุนเยอะ

การเดินทาง เข้าไปในประเทศเกาหลีใต้จะเห็นชื่อและสัญลักษณ์ "ฮุนได" (HYUNDAI) เต็มไปหมด ตั้งแต่รถบัสที่มารับ เข้ามาในเมืองยังเห็น รถซีดาน รถสปอร์ต รถซิตี้คาร์ หรือแม้แต่รถบรรทุกหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ ตึกอาคารที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า สายการเดินเรือ ซูเปอร์มาร์เกต ฯลฯ แต่ในปัจจุบัน ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป ทำกิจกรรมทางธุรกิจเกี่ยวข้องกันเพียง 3 อย่าง คือ รถยนต์ ซึ่งประกอบด้วยรถ 2 ยี่ห้อ คือ ฮุนได และเกีย ซึ่งฮุนไดถือหุ้นในเกีย 34 เปอร์เซ็นต์, ธุรกิจเหล็ก ในนาม ฮุนได สตีล (Hyundai Steel) และธุรกิจก่อสร้าง

สำหรับการเยี่ยมชมศูนย์ Hyundai R&D Center นั้นทำให้รู้ว่าบริษัท ฮุนไดมอเตอร์ ได้ยึดหลักคุณภาพสูงสุดเพื่อการพัฒนาและการผลิตรถ ซึ่งฮุนไดถือเป็นรถที่มีรางวัลมากมาย และวิสัยทัศน์ของฮุนไดในอนาคตคือสร้างการรับรู้ทั่วโลกในเรื่องคุณภาพที่แท้ จริงของรถ และในเมืองไทย ฮุนไดมีแผนนำเข้ารถใหม่ๆ อย่างน้อยสองรุ่นในปลายปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่ผ่านการพัฒนาจาก Hyundai R&D Center แห่งนี้
บรรยายใต้ภาพ
พระราชวังเคียงบ็อค
Mr.Frank Ahrens
สฤษฏ์พร สกลรักษ์ กับรถฮุนได โซนาต้า ไฮบริด
อนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ หน้าบลูเฮาส์
กรุงโซลที่เต็มไปด้วยเมฆฝน
รถยนต์ฮุนไดที่โชว์ในสำนักงานใหญ่
กุญแจคล้องรัก ที่โซลทาวเวอร์
มังกร 7 เล็บ
คณะสื่อมวลชนที่เข้าเยี่ยมชม ฮุนได สำนักงานใหญ่
อาคารสำนักงานใหญ่ของฮุนได
พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์
พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิ้ง http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=10158.msg11725;topicseen#msg11725

Credit : DekvanzClub

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น