Subscribe:

DekvanzClub

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุยเฟื่องเรื่องยานยนต์: ตลาดรถยนต์ ครึ่งปีหลังเดือด

ในขณะที่นั่งเขียนต้นฉบับอยู่นี้ พี่น้องชาวเหนือ และอีสานบ้านผม รวมทั้งพี่น้องชาวไทยในภูมิภาคต่างๆ กำลังประสบกับอุทกภัยอย่างหนักในหลายพื้นที่ อันเป็นผลมาจากพายุโซนร้อนนกเตนและร่องมรสุมที่พัดผ่าน...เอ้ย! ที่พัดเข้ามาเต็มๆ ฝนฟ้ากระหน่ำมาไม่เว้นแต่ละวัน พลอยทำให้เราที่อาศัยอยู่ในพระนครได้ชุ่มชื่นเย็นฉ่ำกันทั่วหน้า

แม้ ฝนฟ้าจะไม่เต็มใจ ปีก่อนๆ โน้นก็ท่วม ปีก่อนนี้ก็ท่วม ปีนี้ก็ท่วม และปีหน้าคาดว่าน่าจะท่วมอีก ซึ่งแม้จะท้อแท้กันบ้างแต่ก็ไม่ทำให้คนไทยสิ้นหวัง

เห็นแล้วก็ให้นึก ถึงสมัยตอนที่ผมเองยังเด็กๆ อยู่ ซึ่งก็เคยอพยพโยกย้ายจากถิ่นฐานบ้านเกิดพร้อมกับครอบครัวครั้งแรกไปอาศัย บ้านลุงอยู่เป็นเดือนๆ ก็เพราะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2521 แต่เมื่อน้ำลดก็หอบผ้าผ่อนกลับภูมิลำเนาเดิม จากนั้นก็ประสบกับภาวะน้ำท่วมมาบ้างประปรายไม่หนักมากนัก แต่ต้นข้าวที่พ่อลงไว้ในที่นาก็แทบไม่เหลือไว้ให้เก็บเกี่ยว ดีที่มีที่เนินอยู่บ้างจึงไม่ถึงกับอดอยากปากแห้งมากนัก

ดังนั้น เมื่อน้ำท่วมเข้าบ่อยๆ ก็ทำให้พวกเราชาชินกับมันซะแล้ว ก่อนที่จะเข้าหน้านาหรือฤดูทำนา ฝนฟ้าก็ไม่เป็นใจหายาไส้สักหยดก็ยังยาก ครั้นพอทำนาเสร็จสรรพเรียบร้อยไม่ทันเท่าได มันก็กระหน่ำซ้ำเติมมาจนท่วมท้นเอ่อล้นทะลักไปทุกที่ ทำให้หลายคนหันมาจับกบจับปลาขายกันเป็นล่ำเป็นสัน พอน้ำลดเราก็มาเริ่มลงกล้าทำนากันต่อ

เพราะทนรอไม่ไหวกับการแก้ปัญหา และเยียวยาของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ที่ได้แต่นำเศษเงินไม่กี่ร้อยกี่พันบาท (หลังจากที่หักหัวคิวแล้ว) ไปจุนเจือ แทนที่จะคิดแก้ปัญหาให้ยั่งยืนถาวรเป็นรูปธรรม...

ครับแม้จะโดนภัย พิบัติซ้ำซากจำเจเศรษฐกิจไทยปีนี้ก็ยังมีทิศทางขยายตัว ได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ที่มียอดการจำหน่ายสูงขึ้นทุกเดือน ดูได้จากยอดการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งปีแรกสิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 432,012 คัน เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รวมถึงคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปี 2554 มีแนวโน้มสูงถึง 9 แสนคัน เพิ่มขึ้น 12.4% ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ของตลาดรถยนต์ในประเทศ

จาก การเปิดเผยของ มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในงานแถลงนโยบายครึ่งปี กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดรถยนต์ครึ่งหลังของปี 2554 คาดว่าจะมีความต้องการในตลาดรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่จากหลายค่าย ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เมื่อตอนต้นปี ด้วยยอดขายที่สูงกว่า 900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 12.4% โดยแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่ง 410,000 คัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 490,000 คัน และคาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์จะสามารถผลิตรถได้มากขึ้นถึง 1,800,000 คัน

นอกจากนี้ คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ก็รายงานถึงสถิติการขายรถยนต์เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า มียอดการจำหน่ายทั้งสิ้นอยู่ที่ 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.0% โดยประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 40,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.1% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 35,028 คัน เพิ่มขึ้น 12.6%

ประเด็นสำคัญที่ทำให้ยอดการจำหน่ายรถ ยนต์เดือนกรกฎาคมมีปริมาณการขาย 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากกำลังการผลิตที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติของค่ายรถญี่ปุ่น ทำให้สามารถส่งมอบรถได้เร็วขึ้น แม้ว่าจะยังคงมียอดค้างจองอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมที่ปรับเพิ่มขึ้น และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด

ส่งผลให้ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 504,914 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 24.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 16.2% เป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่จูงใจ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ

ส่วน ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ประกอบกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ จากค่ายรถยนต์ กระแสเงินไหลเข้าในประเทศยังอยู่ในระดับสูง

แม้จะได้รับผลกระทบบ้าง จากการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา และปัญหาหนี้ของกลุ่มประเทศในแถบยุโรป อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ ได้

คงต้องคอยลุ้นกันต่ออีกว่า 4 เดือนกว่าที่เหลือนี้ ตลาดรถยนต์ในบ้านเราจะดุเดือดเผ็ดมันสะระตี่กันแค่ไหน...

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จากลิงค์ http://www.dekvanzclub.in.th/smf/?topic=10622.msg12270;topicseen#msg12270

Credit : รูปโคโยตี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น